1.จงอธิบายความหมายของคำดังต่อไปนี้พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์ในชีวิตประจำวัน
เทคโนโลยี คือ การนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือความรู้ด้านอื่นๆ ที่ได้จัดระเบียบดีแล้วมาประยุกต์ใช้ในด้านใดด้านหนึ่ง
สารระสนเทศ คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการเก็บรวบรวมและเรียบเรียง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประโยชน์ต่อผู้ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
เทคโนโลยี คือ การนำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือความรู้ด้านอื่นๆ ที่ได้จัดระเบียบดีแล้วมาประยุกต์ใช้ในด้านใดด้านหนึ่ง
สารระสนเทศ คือ ข้อมูลที่ผ่านกระบวนการเก็บรวบรวมและเรียบเรียง เพื่อใช้เป็นข้อมูลประโยชน์ต่อผู้ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทศที่เหมาะสมและสามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ข้อมูล 1.1) การจัดแบ่งกลุ่มข้อมูล
ข้อมูลที่เก็บจะต้องมีการแบ่งแยกกลุ่ม เพื่อเตรียมไว้สำหรับ การ ใช้งาน การแบ่งแยกกลุ่มมีวิธีการที่ชัดเจน
เช่น ข้อมูลในโรงเรียนมีการแบ่งเป็น แฟ้มประวัติ นักเรียน และแฟ้มลงทะเบียน
สมุดโทรศัพท์หน้าเหลืองมีการแบ่งหมวดสินค้าและบริการ เพื่อความสะดวกในการค้นหา
1.2) การจัดเรียงข้อมูล เมื่อจัดแบ่งกลุ่มเป็นแฟ้มแล้ว ควรมีการจัดเรียงข้อมูลตามลำดับ ตัวเลข หรือตัวอักษร เพื่อให้เรียกใช้งานได้ง่ายประหยัดเวลา ตัวอย่างการจัดเรียงข้อมูล เช่น การจัด เรียงบัตรข้อมูลผู้แต่งหนนังสือในตู้บัตรรายการของห้องสมุดตามลำดังตัวอักษร การจัดเรียงชื่อ คน ในสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์ ทำให้ค้นหาได้ง่าย
1.3) การสรุปผล บางครั้งข้อมูลที่จัดเก็บมีเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องมีการสรุปผลหรือสร้างรายงานย่อ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ข้อมูลที่สรุปได้นี้อาจสื่อความหมายได้ดีกว่า เช่น สถิติจำนวนนักเรียนแยกตามชั้นเรียนแต่ละชั้น
1.4) การคำนวณ ข้อมูลที่เก็บมีเป็นจำนวนมาก ข้อมูลบางส่วนเป็นข้อมูลตัวเลข ที่สามารถ นำไปคำนวณเพื่อหาผลลัพธ์บางอย่างได้ ดังนั้น การสร้างสารสนเทศจากข้อมูล จึงอาศัย การคำนวณ ข้อมูลที่เก็บไว้ด้วย
1.2) การจัดเรียงข้อมูล เมื่อจัดแบ่งกลุ่มเป็นแฟ้มแล้ว ควรมีการจัดเรียงข้อมูลตามลำดับ ตัวเลข หรือตัวอักษร เพื่อให้เรียกใช้งานได้ง่ายประหยัดเวลา ตัวอย่างการจัดเรียงข้อมูล เช่น การจัด เรียงบัตรข้อมูลผู้แต่งหนนังสือในตู้บัตรรายการของห้องสมุดตามลำดังตัวอักษร การจัดเรียงชื่อ คน ในสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์ ทำให้ค้นหาได้ง่าย
1.3) การสรุปผล บางครั้งข้อมูลที่จัดเก็บมีเป็นจำนวนมาก จำเป็นต้องมีการสรุปผลหรือสร้างรายงานย่อ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ ข้อมูลที่สรุปได้นี้อาจสื่อความหมายได้ดีกว่า เช่น สถิติจำนวนนักเรียนแยกตามชั้นเรียนแต่ละชั้น
1.4) การคำนวณ ข้อมูลที่เก็บมีเป็นจำนวนมาก ข้อมูลบางส่วนเป็นข้อมูลตัวเลข ที่สามารถ นำไปคำนวณเพื่อหาผลลัพธ์บางอย่างได้ ดังนั้น การสร้างสารสนเทศจากข้อมูล จึงอาศัย การคำนวณ ข้อมูลที่เก็บไว้ด้วย
ฐานความรู้
1.
ความรู้ที่อยากจะถ่ายทอด เป็นความรู้ที่เกิดขึ้นจากประสารทสัมผัสและสร้างประสบการณ์ต่างๆ
2. ความรู้ที่เห็นได้ชัด
เป็นความรู้ที่สามารถนำมาถ่ายทอดได้เป็นเกณฑ์ สูตร สมการ หรือการแทนด้วยตัวหนังสือ
3.
ความรู้ภายในองค์กรที่เห็นได้ชัด
เป็นการสร้างองค์กรความรู้และประสบการณ์ขึ้นภายในองค์กร
2. โครงสร้างสาระสนเทศ มีอะไรบ้าง
พร้อมยกตัวอย่าง
โครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ” นั้นควรตีความในความหมายกว้างที่ไม่ได้หมายความเฉพาะเครือข่าย
(network) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุปกรณ์เครื่องปลายทางที่เกี่ยวข้อง
(relevant
terminal equipment) ฐานข้อมูล (information databases) และซอฟต์แวร์และการประยุกต์ใช้งานต่างๆ
ด้วย ดังนั้นคำนิยามในความหมายอย่างกว้างจึงมีความหมายรวมทั้ง
อุปกรณ์รับส่งสัญญาณในทางกายภาพ (physical transmission) และการสลับสัญญาณ
(swithing capacity) อุปกรณ์รอบข้าง (peripheral equipment)
ที่นำมาใช้กับเครือข่าย การประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์ และกิจกรรมต่างๆ
ที่เกิดขึ้นแม้กระทั่ง สถาบันมาตรฐานและเทคโนโลยีแห่งชาติ (Nationallnstitute
of Standards and Technology :NIST) ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ให้ความหมายชองโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศแห่งชาติในความหมายกว้าง
เช่นกัน
โดยประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก
5 ประการ ได้แก่
1.
อุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง (Equipment)
เช่นคอมพิวเตอร์
เครื่องพิมพ์ โทรศัพท์ โทรสาร โทรทัศน์ สายเคเบิ้ล ไฟเบอร์ออพติก
เครือข่ายคลื่นไมโคเวฟ (microwave nets) ฯลฯ
2.
สารสนเทศหรือข้อมูลข่าวสาร (Information)
ไม่ว่าจะสื่อสารออกมาในรูปแบบใดก็ตาม เช่น ภาพ เสียง เอกสาร
ฐานข้อมูล ฯลฯ
3.
โปรแกรมคอมพิวเตอร์และการประยุกต์การใช้งาน
(Application
and software) เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึง ใช้ประโยชน์
บริหารจัดการ ฯ
4.
มาตรฐานของเครือข่ายและรหัสที่ใช้ในการส่งผ่าน
(Network
standard and transmission codes)
5.
ทรัพยากร (People)
สำหรับประเทศไทยตามร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน
3.วิวัฒนาการของระบบสาระสนเทศ
ยุคแรกเรียกว่า
ยุคการประผลข้อมูล (Data Processing Era) เพื่อใช้ในการคำนวณและการประมวลผลข้อมูล
ยุคที่ 2
มีการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยในการตัดสินใจดำเนินการควบคุม ติดตามผล
และวิเคราะห์ผลงานของผู้บริหารระดับต่างๆเรียกว่า ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ
ยุคที่ 3
การใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดการทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อเรียกใช้สารสนเทศที่ช่วยในการตัดสินใจนำหน่วยงานไปสู่ความสำเร็จ
ยุคปัจจุบัน
ความเจริญของเทคโนโลยีสูงมาก
มีการขยายขอบเขตของการประมวลผลไปสู่การสร้างและการผลิตสารสนเทศทำให้สามารถสร้างทางเลือกและรูปแบบใหม่ของสินค้าและบริการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น